สุทิน คลังแสง: กรณีประยุทธ์ถวายสัตย์ไม่ครบ

[Click here to read the speech in English translation]

การอภิปรายวันนี้ตั้งแต่เช้าจนถึงขณะนี้ ไม่มีอะไรมากมายครับ มีเรื่องใหญ่ก็คือว่า เราเองได้เห็นพฤติกรรมของท่านนายกรัฐมนตรีแล้ว เราพบและไม่สบายใจ เป็นกังวลว่าท่านจงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ และไม่ปฏิบัติตามกฎหมายมาอย่างเป็นนิสัย อย่างเป็นประจำ แล้วก็มองไปแล้วเนี่ย ในอดีตยิ่งเห็นชัด ปัจจุบันถือว่าเป็นการละเมิดกฎหมายที่อุกอาจ ชัดเจนและเป็นเรื่องใหญ่มาก ทำให้เราอดกังวลไปในอนาคตไม่ได้ว่า ถ้าไม่ทำอะไรกับท่าน ไม่เตือนสติกันบ้าง ไม่สอบถามกันบ้าง แนะนำกันบ้าง ไม่หารือกันบ้าง ท่านจะต้องเป็นอย่างนี้อีกในอนาคต

แล้วบังเอิญเรื่องที่ท่านทำผิดยิ่งใหญ่วันนี้คือเรื่องการละเมิดรัฐธรรมนูญมาตรา 161 ถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน แล้วบังเอิญคำที่ท่านไม่พูด ถ้าท่านพูดผิดพลาดแล้วยอมรับว่าผิดพลาด เราสบายใจ เราไม่กังวล แต่เมื่อท่านไม่ได้บอกอะไรกับเราเลยว่าผิดพลาดหรือจงใจ ท่านไม่ให้ความกระจ่างเลยแม้แต่น้อย ถามแล้วถามเล่าด้วยมาตรการใดก็ไม่ได้ให้ความกระจ่างชัด จึงทำให้เรากังวลยิ่งขึ้น คนไทยทุกคนก็ยิ่งกังวล เพราะอะไรครับ การไม่ดำรงรักษาไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญและ ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญเนี่ย มันเป็นเรื่องซึ่งน่ากังวล คนทำผิดกฎหมาย ถ้าเป็นชาวบ้าน ตาสีตาสาเนี่ย เราไม่วิตกนะครับ อานุภาพการทำลายล้าง ความเสียหายอยู่ในวงจำกัด แต่ถ้าคนระดับนายกฯ ไม่ทำตามกฎหมายแล้ว ท่านครับ อานุภาพการทำลายล้าง 65 ชีวิตคนไทยทุกชีวิตอยู่ในกำมือท่าน จะไม่ให้เรากังวลได้อย่างไร ท่านประธานครับ ถ้ามดมันบ้าคลั่งเนี่ยมันไม่น่ากลัวเท่าไหร่ มันก็ได้แค่บริเวณมด แต่ถ้าช้างบ้าคลั่งล่ะฮะ มันจะเป็นอย่างไรฮะ เราก็ต้องกังวล

เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงเป็นที่มาของการที่เราจะต้องขอถามท่านนายกฯ โดยมาตรการเบาๆ ถามในสภาท่านไม่ตอบ ไม่ชัดเจน ตั้งกระทู้ก็ไม่มา ครั้งที่สองก็ไม่มา จึงจำเป็นต้องมีวันนี้ เพราฉะนั้น วันนี้เราจึงต้องการมาถาม ถ้าท่านตอบว่าท่านผิดพลาด ท่านจะแก้ไข ผมเชื่อว่าเราสบายใจ จบเรื่องนี้ คนทั้งประเทศไม่ต้องพะวง ต่างชาติก็ไม่ต้องมาติดตาม ไม่ต้องมาพูดกันเรื่องความเชื่อมั่น ถ้าท่านจงใจ จงใจเพราะอะไร เราอยากรู้ รู้แล้วหวังว่าพวกเราจะได้ผ่อนคลาย บรรยากาศประเทศจะได้ดีขึ้น การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาของประเทศจะได้เดินหน้า

ผมเปรียบให้เห็นเรื่องนี้ให้ชาวบ้านเข้าใจครับ ท่านประธานเคยนั่งเครื่องบินนะครับ เปรียบเครื่องบินเป็นประเทศไทย ผู้โดยสารทั้งหมดเป็นคนไทย กัปตันคนขับเครื่องบินคือนายกฯ เครื่องบินลำนี้บินผ่านร้อนผ่านหนาว ลำบากลำบนมาห้าปี  พอปีที่หก ผ่านการเลือกตั้ง เราก็คิดว่าการเครื่องบินลำนี้น่าจะปลอดภัยแล้ว เรามีอยู่มีกินแล้ว ปรากฏว่า โชเฟอร์ขับเครื่องบินฉวัดเฉวียน ผิดกฎจราจรตลอด ก็ทำให้เราไม่สบายใจ เราก็อยากถามโชเฟอร์ถามกัปตันว่า ทำไมขับแบบนี้ มันจงใจหรือสุดวิสัย จะแก้ไขได้อย่างไร ถ้ากัปตันออกมาพูดว่า ‘สวัสดีครับผู้โดยสารทุกท่านที่เคารพทุกท่าน เรากำลังจะนำท่านไปด้วยความปลอดภัย จะลงสู่ที่หมายด้วยความปลอดภัยแน่นอน’ โล่งไหมครับ ความอกสั่นขวัญแขวนบนเครื่องบินก็โล่ง ถ้ากัปตันไม่พูดอะไรเลย ในเครื่องก็กดดัน จะเป็นจะตาย ยิ่งกัปตันออกมาขู่ด้วยอาการมึนๆ เมาๆ ผู้โดยสารจะเป็นอย่างไร

ถ้าเปรียบเครื่องบินไม่ชัด เปรียบรถยนต์ก็ได้ ชาวบ้านจะได้รู้ รถยนต์คันนี้ คนไทยนั่งมาในรถ โชเฟอร์เป็นนายกฯ ฝ่าไฟแดงมาแล้ว 3-4 ไฟแดงอ่ะ จะพาเราไปชนตายเมื่อไหร่ ก็เลยอยากถามโชเฟอร์ว่าเมาหรือเปล่า เมายาบ้าหรือเมาอำนาจ ถ้าโชเฟอร์หันมาบอกว่า ‘ไม่เมาหรอกครับ แป๊บเดียวเดี๋ยวก็สร่าง ให้สบายใจได้นะครับ’ เราเป็นผู้โดยสารก็สบายใจ แต่นี่โชเฟอร์หันมาด่าผู้โดยสารอีก ไม่ให้ความมั่นใจกับผู้โดยสาร แล้วเราก็เป็นอย่างนี้

เพื่อนสมาชิกหลายท่านวันนี้ได้อภิปราย แล้วยกตัวอย่างความกังวลว่า ที่ท่านละเมิดรัฐธรรมนูญคือการถวายสัตย์ปฏิญาณ ถวายต่อหน้าองค์ประมุขของประเทศท่านยังทำผิด พอฟังไปฟังมา เอ๊ะจงใจหรือเจตนา ทุกคนมีความเห็นว่าจงใจ ทำไมบอกว่าจงใจครับ ก็อดีตท่านที่เขายกตัวอย่างประกอบกันนี้ เค้าว่าอดีตมันเป็นการชี้ปัจจุบัน ท่านยึดอำนาจมา ท่านใช้มาตรา 44 บริหารประเทศ บางคนก็บอกว่าออกกฎหมายแล้วเลื่อนมากี่ครั้ง ใช้ ม.44 เลื่อนมากี่ครั้ง ขยายเขตเลือกตั้ง แก้เขตเลือกตั้งได้ เหมืองอัคราท่านก็ทำตามอกตามใจท่านได้ จนมาถึงการสรรหา ส.ว. ก็ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ส่งพระราชกำหนดเข้ามาในสภาก็ไม่ได้ดูเลยว่ามันขัดรัฐธรรมนูญชัดๆ ก็ยังกล้าส่งเข้ามา นี่คือตัวอย่างที่เพื่อนสมาชิกยกตัวอย่างว่าเมื่ออดีตท่านเป็นแบบนี้ ปัจจุบันอุกอาจเช่นนี้ อนาคตหมายความว่าท่านไม่ได้รับรองอนาคตเลย ไม่รับปากว่าจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญเนี่ยมันก็คิดไปได้ทั้งนั้นแหละครับ ท่านจะยึดอำนาจอีกหรือไม่ เพื่อนสมาชิกเขาก็ถาม ยิ่งไปเห็นท่าที ผบ.ทบ. ออกมาคำราม ไอ้ที่ท่านเว้นว่างไว้ที่ท่านไม่ได้พูดเนี่ย มันสัมพันธ์กับท่าทีของ ผบ.ทบ. หรือเปล่า

เหล่านี้เป็นเรื่องที่หลายคนกังวล ผมก็กังวล ยึดอำนาจครั้งแล้วที่ผมเคยถูกจับไปขังไว้ที่ราชบุรี 4 คืน ขึ้นรถตู้ ทหารคุมไปร้อยเอ็ดอีก 4 คืน มันจะเกิดอย่างนี้อีกไหม พวกเราก็มีสิทธิ์คิด วันนี้จึงมาถามท่าน แนะนำท่าน ถ้าท่านเจตนาอย่างนั้นจริงๆ กลับใจใหม่นะ หลายคนบอกแล้ว ถ้ากลับใจไม่ได้ให้ลาออก หลายคนบอกว่าการแถลงนโยบายแบบไม่บอกแหล่งที่มาของงบประมาณนี่มันชัดมาก ถ้าท่านกล้าทำผิดขนาดนี้ ในอนาคตท่านจะทำอะไรอีกบ้างที่ผิดกฎหมาย ท่านประธานที่เคารพครับ นี่คือที่มาของการต้องพูดกันแต่เช้ายันเย็นและรอคอยคำตอบ

หลายท่านไม่ได้พูดเฉยๆครับ พูดเสร็จถามท่านนายกฯ ท่านรองฯวิษณุ ทุกคำถาม และทุกคนมีทางออก มีข้อเสนอแนะให้ทุกท่านแล้ว หวังว่าจะได้คำตอบ ถ้าคำตอบเป็นที่น่าชื่นใจก็กลับบ้านนอนหลับ ประชาชนพลเมืองก็สบายใจ บรรยากาศของประเทศ การแก้ปัญหาของประเทศไปได้ แต่สิ่งที่เราได้รับ ท่านประธานที่เคารพครับ หนึ่ง เราผิดหวังอีกครั้งหนึ่ง เป็นครั้งที่สามที่สี่ เสียใจเป็นครั้งที่นับไม่ถ้วน ผิดหวังอะไรครับ นอกจากท่านนายกฯ ไม่ตอบ แล้วออกไปให้สัมภาษณ์ข้างนอกเมื่อกี้นี้เอง ว่าจะไม่ลาออก ไม่ปรับ ครม. และที่ไม่ตอบวันนี้ถือเป็นสิทธิ์ของผม ท่านท้าทายหรือเปล่าครับ ท่านไม่เคารพสภาเลยครับ ไม่สงสารหัวใจของพวกเราที่เป็นตัวแทนประชาชนที่มาถามแทนประชาชน แล้วท่านไม่มาไม่เป็นไรครับ ท่านตอบไปเมื่อสักครู่นี้ ท่านไม่ตอบเรื่องถวายสัตย์ฯ แต่จะตอบเรื่องการแถลงนโยบายโดยไม่บอกแหล่งที่มางบประมาณก็ไม่ใช่ ท่านเบี่ยงออกไปพูดเรื่องเศรษฐกิจเข้ารกเข้าพงเข้าป่าเข้าดงไป ทำไมท่านไม่แสดงแหล่งที่มาของงบประมาณ ไม่ตอบเลย มีนิดเดียวที่ท่านเผลอพูดหรือละเมอออกมาหรือเปล่า ว่าให้ไปดูกฎหมาย 2 ฉบับ พ.ร.บ. 2 ฉบับว่าด้วยงบประมาณก็ พ.ร.บ.ก็ พ.ร.บ.สิครับ แล้วมันจะไปใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญได้อย่างไร รัฐธรรมนูญบอกไว้ชัดว่าต้องแสดงแหล่งที่มาของงบประมาณ ท่านจะไปอ้าง พ.ร.บ. มาหักล้างรัฐธรรมนูญได้อย่างไร นั่นคือเรื่องการแถลงนโยบายโดยไม่บอกแหล่งที่มา ซึ่งผิดหวังจากตัวท่านนายกฯ

พูดเสร็จท่านก็กลับ ก็มาหวังต่อกับท่านวิษณุ เราก็รอความหวังจากท่านครับ ท่านครับ ทั้งผิดหวังทั้งเสียใจกับท่านรองนายกฯ วิษณุ เคยชื่นชมว่าท่านเก่ง ที่ผมพูดทุกวันนี้ ท่านคือไอดอลผม สมัยที่ท่านจัดรายการสนทนาปัญหาบ้านเมืองผมชอบมาก ผมชอบลีลาการพูดของท่าน ส่วนหนึ่งที่อยู่กับผมคือลีลาของท่าน ชอบความคิดชอบอุดมการณ์ท่านมาก วันนี้ผิดหวังมากอีกครั้งหนึ่ง ผิดหวังอย่างไรครับ วันนี้ท่านพูดเท็จครับ ผมไม่อยากพูดคำนี้กับคนที่ผมเคารพเลย ท่านบอกว่าการที่นายกฯ ไปล้วงกระเป๋าเอากระดาษออกมา ทำในพิธีอ่านนั้นถือเป็นวิธีปกติที่คนทำมาตลอด นายกฯ  ทุกคนทำมาตลอด ท่านครับ ไม่จริงครับ อ.ปิยบุตรพูดแล้ว ดูคลิปพรุ่งนี้ เอานายกฯ ประยุทธ์นี่แหละ ที่ครั้งที่ผ่านมาไม่เคยทำอย่างนี้หรอก

ท่านก็บอกว่าไม่เคยมีอย่างอื่นปฏิบัติเช่นเดียวกัน มีหลักฐานที่ชัดกว่านั้น พรุ่งนี้ผมจะแถลงข่าวให้ฟัง เอกสารสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อธิบายและซักซ้อมลำดับพิธีการครั้งนี้ เจ้าหน้าที่เขาให้ผมมาผมก็อ่าน ว่าลำดับการถวายสัตย์ปฏิญาณของสำนักเลขาธิการ ครม. เขาลำดับความอย่างไร เขาพูดไว้เสร็จสรรพขั้นตอนอย่างนั้นอย่างนี้ และพูดไว้ดีมากว่า มีแฟ้มสีน้ำตาลหรือสีน้ำเงิน ที่จะต้องมีเจ้าหน้าที่ยื่นให้กับนายกฯ นายกฯ ก็จะอ่าน เขาลำดับพิธีการเอาไว้ชัด ซึ่งมันเป็นคนละเรื่องกับที่ท่านพูด อย่างนี้ผมก็เข้าใจว่าท่านพูดไม่จริง และพูดอย่างนี้ต่อสภา ต่อคนทั้งประเทศ ผมก็ติดใจกับท่านตรงนี้ ต้องพิสูจน์กันว่าพิธีการจริงๆ เขาทำแบบนี้ได้ไหม เขาเปิดกีฬา อบต. ยังมีแฟ้มนะครับ นี่ถวายสัตย์ปฏิญาณกับประมุขของประเทศ กระดาษแผ่นเดียวออกมาแล้วบอกว่านี้คือประเพณีปฏิบัติ ชาวบ้าน ตาสีตาสาฟังวันนี้แล้วออกไปถามเลย ไม่เชื่อ

แต่สิ่งที่ผมผิดหวังมากกว่านี้ในวันนี้คือท่านก็ตอบไม่ตรงหรอก ท่านขี่ม้าเลียบค่าย ก็สงสารม้าอยู่ ท่านพยายามจะอธิบายให้พวกเราเข้าใจว่า การปฏิญาณตนกับการถวายสัตย์มันเป็นคนละเรื่อง ประเด็นที่ท่านควรพูดคือ จะเป็นเรื่องอย่างไรก็ตาม คำถามคือ ทำไมไม่พูดตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่เขียนไว้ ถ้าพูดตามนั้นมันผิดไหม ถ้าไม่ผิดแล้วทำไมไม่พูด ถ้าบอกว่าจะธำรงไว้และปฏิบัติซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ ถ้านายกฯ พูดแบบนี้ มันผิดอะไร ถ้าไม่ผิดทำไมไม่พูด แล้วถ้าไม่พูดมันคืออะไร

จะเป็นเรื่องระหว่างรัฐบาลกับพระมหากษัตริย์ อันนั้นก็ยังแย้งได้ แต่ระหว่างรัฐบาลกับพระมหากษัตริย์ก็แล้วแต่ แต่พูดคำนี้ไม่ได้เหรอครับ เป็นเรื่องรัฐบาลกับพระมหากษัตริย์แต่จะพูดถ้อยคำตามรัฐธรรมนูญตามมาตรา 161 ว่าจะรักษาธำรงไว้ และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญไม่ได้เหรอ และที่หนักกว่านั้นที่ผมไม่สบายใจอย่างยิ่งคือ ท่านพยายามทำให้เราเข้าใจว่าการถวายสัตย์ จะผิด ถูกก็ช่าง จะกล่าวครบหรือไม่ครบก็ช่าง ถ้ามีพระบรมราโชวาทแล้วถือว่าสมบูรณ์ ผมว่าไม่ใช่ ท่านเคยอยู่มหาวิทยาลัยมา ผมอยู่มหาวิทยาลัยมา ผมรับผิดชอบจัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตรนักศึกษามาไม่ต่ำกว่า 5 ปีการศึกษาติดต่อกัน นักศึกษาหรือบัณฑิต หรือมหาบัณฑิตที่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ รับแล้วสุดท้ายพระมหากษัตริย์ องค์พระราชทานปริญญาบัตร ท่านก็ให้พระบรมราโชวาททุกครั้งไม่อยู่ในวิสัยที่ท่านจะมาถามว่าปริญญานี้ชอบหรือไม่ชอบ โกงมาหรือเปล่า เช่นเดียวกับไม่อยู่ในวิสัยของท่านที่จะบอกว่าถวายสัตย์ครบไหม บอกซิ คำนั้นพูดไหม คำนั้นทำไมไม่พูด ท่อนนี้ทำไมนายกฯ ไม่พูด อยู่ในวิสัยพระองค์ท่านเหรอครับ

เป็นพระมหากรุณาธิคุณ เป็นเมตตาสูงส่งที่ผิดถูก แต่พระองค์ท่านก็พระราชทานพระบรมราโชวาทให้ทุกคน แล้วหลังจากพระราชทานปริญญาบัตร เกิดอะไรขึ้น มีปริญญาปลอมเกือบทุกมหาวิทยาลัย เราต้องไปไล่ยึดปริญญากลับมาหมด นั่นแสดงว่า แม้คุณรับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ ไม่ได้หมายความว่าปริญญาบัตรของคุณจะสมบูรณ์ ไปทำงานแล้วไล่ออกกันถมเถ เป็นปริญญาที่รับจากพระหัตถ์ทั้งนั้น ดังนั้น ท่านอย่าเอาพระบรมราโชวาทมาเป็นนัยทางการเมือง วันนี้ผมเชื่อว่า พระบรมราโชวาททุกครั้งไม่มีนัยทางการเมือง ใครจะสมบูรณ์ ไม่สมบูรณ์ อย่าไปตีความเป็นคุณหรือโทษกับฝ่ายตนเอง

ที่สำคัญกว่านั้น คำว่าเป็นเรื่องรัฐบาลกับพระมหากษัตริย์ สะเทือนใจนะครับ ผมว่าต้องต่ออีกคำหนึ่งว่า รัฐบาลถวายสัตย์ฯ กับพระมหากษัตริย์ แต่เป็นการถวายสัตย์ฯ ให้คำมั่นสัญญากับพระประมุข ผ่านมายังประชาชน ต้องยึดโยงมายังประชาชน ไม่ใช่เรื่องส่วนพระองค์ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวระหว่างรัฐบาลกับพระองค์ท่าน แต่เป็นการให้คำมั่นสัญญาผ่านองค์ประมุขมายังประชาชนว่าจะบริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และด้วยปฏิบัติซึ่งรัฐธรรมนูญ

ถ้าไปหยุดตรงที่ว่ารัฐบาลกับพระมหากษัตริย์ คำนี้ไม่น่าใช้ ได้ยินถึงไหน น้อยใจถึงนั่น พระมหากษัตริย์ทรงเป็นที่พึ่งของประชาชน เราจะได้รับความอบอุ่น ได้รับคำมั่นจากรัฐบาลต่อใครที่เรามั่นใจที่สุด คือองค์ประมุข ทำไมนายกฯ ถึงไม่ถวายสัตย์กับประธานสภา เราไม่มั่นใจ เราจะมั่นใจและอบอุ่นใจที่สุดคือองค์พระบรมโพธิสมภารของเรา คำนี้ต้องคิดกันใหม่ ท่านจะอธิบายอย่างไรก็ตาม ท่านก็ต้องตอบว่าทำไมไม่ใช่ถ้อยคำตามรัฐธรรมนูญกำหนด ถ้าไม่เช่นนั้น ท่านกำลังจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และท่านวิษณุ 2 ท่านร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ใครจะถวายสัตย์ปฏิญาณ ไม่จำเป็นต้องดูแล้วในมาตรา 161 วรรคสอง ตามแต่ที่สะดวก ขอแต่เข้าถวายสัตย์ครบกระบวนการ จบ สาระไม่ต้อง กระบวนการโอเค เนื้อหาไม่ต้อง อย่างนั้นเหรอครับ ถ้าท่านยืนยันอย่างนั้น วันนี้ประวัติศาสตร์หน้าใหม่เกิดขึ้นแล้ว ถูกสร้างโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และท่านวิษณุ เครืองาม”

วันนี้ที่เราเสียใจเป็นที่สุดคือ ท่านนายกฯ และคณะรัฐมนตรี ทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ ทำเรื่องง่ายเป็นเรื่องยาก เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าท่านยอมรับอย่างลูกผู้ชายซะในวันแถลงนโยบาย ไปแก้ไขซะ ใครๆ เขาก็แก้ (บารัก) โอบาม่าก็แก้ ขอโทษประชาชน ขอโทษสภานิดเดียว ก็จบ เรื่องจะไม่มาขนาดนี้ เท่านั้นยังไม่พอ วันนี้ท่านยังฝากเรื่องใหญ่ไว้เป็นแผลใจ ผมไม่เชื่อว่าคำอธิบายจากท่านนายกฯ และท่านรองนายกฯ วิษณุ แม้จะวนแค่ไหนก็ตาม บิดอย่างไรก็ตาม คนข้างๆ ผมหลายคนกระซิบว่า ดึงฟ้าต่ำมาปกป้องตัวเอง แล้วต่อไปนี้จะเกิดอะไรขึ้น จากวันนี้เป็นต้นไป หนึ่ง ท่านสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ และประวัติศาสตร์อันนั้นจะลงมาถึงว่าท่านทำลายหลักนิติรัฐ นิติธรรมอย่างสิ้นเชิง อันแรกที่สุดก็คือ รัฐธรรมนูญมาตรา 161 วรรค 2 ก็ทิ้งได้เลย ตัดออก ไม่มีผลบังคับใช้แล้ว

ถ้าความเหลื่อมล้ำมีอยู่ในสังคมใด ความไม่พอใจก็มีที่สังคมนั้น ผมพูดเรื่องความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจไปแล้วในอภิปรายควราวก่อน อันนี้คือความเหลื่อมล้ำทางสังคม ทางการเมือง คำพูดที่ทุกคนพูดในประเทศวันนี้คือ ฝากถามนายกฯ ว่าถวายสัตย์ฯ ไม่ครบแบบนี้ แถลงนโยบายโดยไม่แสดงแหล่งที่มางบประมาณอย่างนี้ ถ้าเป็นนายกฯ คนอื่น ท่านยอมได้ไหม ถ้าเป็นนายกฯ ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ หรือสุทิน ก็แหลกเป็นจุณแล้ว แต่นี่เป็นนายกฯ ชื่อประยุทธ์ รองนายกฯ ชื่อวิษณุจึงอยู่ได้สบายมาก คำๆ นี้ชาวบ้านพูดคือ เขาทำอะไรก็ไม่ผิด แต่เราทำอะไรก็ผิดหมด นี่คือแผลใจ เงื่อนไขของการแตกความสามัคคี ถ้าความยุติธรรมไม่มี ความสามัคคีก็ไม่เกิด ถ้าความสามัคคีไม่เกิด ความปรองดองก็ไม่มาหรอก

การที่ท่านคิดว่าอยู่เหนือกฎหมายแล้วไม่มีใครทำอะไรท่านได้ ใช่ ท่านนายกฯ พูดเมื่อสักครู่นี้ว่าปลดไม่ได้หรอก ก็จะอยู่ต่อไป ลาออกไม่ได้หรอก แถมท่านกับท่านวันนอร์ ผมรู้ว่าท่านท้าทายกันว่าอย่างไร ใช่ครับ วันนี้คนไทยอาจจะทำอะไรท่านไม่ได้ เถียงสู้ท่านไม่ได้ แต่เขาไม่ยอมรับท่านหรอก ถ้าสังคมนี้ ประเทศนี้ลักลั่นกันทางข้อกฎหมาย รัฐบาลนี้ทำอย่างนี้ได้โดยไม่ผิด อีกรัฐบาลหนึ่งทำอะไรก็ผิดทุกอย่าง แผลนี้มันตอกย้ำอยู่ตลอดๆ ท่านผลิตซ้ำตลอด ยึดอำนาจมาแล้วบอกว่าจะสร้างความปรองดอง แต่วันนี้ท่านกำลังสร้างความเหลื่อมล้ำทางข้อกฎหมาย และยิ่งใหญ่ด้วย ทำผิดขนาดนี้ ยังอยู่ได้ ออกไปลอยชายข้างนอก ความสามัคคีความปรองดองจะเกิดไหมครับ ผมว่าไม่ใช่ นี่ยิ่งจะไปกันใหญ่

และที่สำคัญที่สุด สิ่งที่จะเกิดแล้วและจะเกิดต่อไปข้างหน้า สถาบันอันที่เราเคารพ พิธีกรรมซึ่งเคยศักดิ์สิทธิ์ ต่อไปนี้ไม่ศักดิ์สิทธิ์แล้ว ต่อไปนี้ใครจะถวายสัตย์ฯ อย่างไรก็พูดไป จะหน้าพระพักตร์หรืออะไร อยากพูดอะไรก็พูดไปอย่างนั้นเหรอครับ ถ้าอย่างนั้น พิธีกรรมนี้หมดความศักดิ์สิทธิ์ มันไปจนถึงคนที่เคารพเทิดทูน ถูกลดทอนพระเกียรติยศไหมครับ

ถ้าในหมู่บ้านเขามีศาลพระภูมิ มีพระภูมิเจ้าที่ เป็นที่ยึดเหนี่ยวของคนในหมู่บ้าน สิ่งที่ผู้นำหมู่บ้านต้องนำลูกหลาน ทายาทเขาทำคือต้องกราบไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่ตลอด ถ้าเขาไหว้ตลอด สวดมนต์ตลอด เทิดทูนตลอด ลูกหลานเกิดมาเขาก็ยกยอให้สูงส่งขึ้น เขาก็ใช้ศาลพระภูมินั้นแหละเป็นต้นโพธิสมภารได้พึ่งพิง แต่ถ้าหมู่บ้านใด ผู้นำพาลูกหลานไม่กราบไหว้ศาลพระภูมิ เดินผ่านเฉย หรือไปกราบไหว้แล้วอยากสวดมนตร์ก็สวด ไม่อยากสวดก็ไม่สวด ในที่สุด ศาลพระภูมิเจ้าที่ที่เคยศักดิ์สิทธิ์ก็ลดลงๆ ในที่สุดหมูหมากาไก่มันเยี่ยวใส่ คนเป็นนายกรัฐมนตรีคิดไหม

นอกจากท่านมาบริหารประเทศ แก้ปัญหาปากท้องชาวบ้าน สิ่งหนึ่งต้องทำก็คือ ต้องทำให้ประเทศมีขื่อมีแป เสริมส่งระบบนิติรัฐ นิติธรรมที่มันเข้าที่เข้าทาง ให้ศักดิ์สิทธิ์ ให้เป็นระบบ ให้คนในประเทศได้อยู่ ท่านละเลยข้อนี้ และที่สำคัญที่สุด ทำไมท่านไม่ยกยอพระเกียรติยศล่ะ ถ้าท่านรู้ว่าถวายสัตย์ฯ ไม่ครบแล้ว ก็เหมือนลูกหลานที่อาจจะมองว่าศาลพระภูมิไม่ศักดิ์สิทธิ์ ท่านก็ทำเสียสิ เวลาเราเตือนท่าน ท่านก็ไปทำอะไรให้ศักดิ์สิทธิ์คืน ก็ทำได้ ไม่ทำ เมื่อไม่ทำก็หมายความว่านอกจากไม่พยายามทำให้ศาลพระภูมิศักดิ์สิทธิ์ ให้ลูกหลานกราบไหว้มากขึ้นๆแล้วเนี่ย อยู่เฉยๆ ก็เท่ากับลดทอนลงไง

พวกผมไม่ได้เรียนโรงเรียนทหารเหมือนท่านนายกฯ ไม่เคยดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยา ไม่ได้เหรียญรามาธิบดี จึงไม่มีต้นทุนพอจะไปชี้หน้าด่าใครว่าไม่จงรักภักดี พวกผมไม่มีต้นทุนอย่างนั้น มีแต่มือชาวบ้านหน่ะ ให้มา 5 หมื่นเสียง บอกเขาแล้วเขาจะเชื่อหรือไม่ก็ไม่รู้ วันดีคืนดีโดนชี้มาว่าไม่จงรักภักดี แต่คนที่ดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยา ได้เหรียญรามาธิบดี เรื่องแค่นี้ทำไมแสดงออกไม่ได้อ่ะ

เพราะฉะนั้นทางออก หลายท่านเสนอทางมาแล้วเรื่องนี้ เขาเสนอดีมาก น่าสงสารด้วย ที่สงสารเพราะท่าทีของนายกฯ ที่ออกไปแถลงวันนี้ดูไม่แยแส เขาบอกว่าท่านควรจะถวายสัตย์ฯ ใหม่ ปรับตัวปรับใจ ปรับฐานจิต ปรับวิธีคิดให้เหมาะกับประชาธิปไตย เขาก็เสนอแบบดีงาม ก็เหมือนไม่ฟัง เพราะฉะนั้นผมฝากท่านประธานไปถึงท่านนายกฯ ว่าสิ่งที่ท่านจะต้องทำต่อจากนี้ อันดับแรก ฟื้นฟูความเชื่อมั่นของคนในประเทศก่อน จะทำอย่างไรให้ชาวบ้านมั่นใจว่าโชเฟอร์คนนี้จะพาเขาไปไม่ชนตึกตาย ไม่ไส้กิ่ว งบประมาณที่ไม่แถลง ก็เพราะปิดปังข้อเท็จจริงทางเศรษฐกิจ ทำอย่างไรคนในรถจะบอกว่าไปกับโชเฟอร์คนนี้แล้วไส้ไม่แห้ง ไม่ชนตาย ท่านทำได้ ท่านจะออกซะ ปรับ ครม. ใหม่ ถวายสัตย์ใหม่ท่านก็ทำได้ แต่สิ่งซึ่งสำคัญนะครับ ท่านต้องทำให้ประชาชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลนี้ชอบธรรมด้วยกฎหมาย เป็นรัฐบาลที่สมบูรณ์ และทำให้ประชาชนอุ่นใจว่าท่านจะไม่ละเมิดกฎหมาย

แต่สิ่งหนึ่งที่ท่านต้องทำควบคู่ไปด้วยคือ ท่านต้องยกยอ เทิดทูน ทะนุบำรุงให้สิ่งซึ่งพวกเราเคารพเนี่ย ได้สูงส่งยิ่งขึ้น ทำยังไงครับ พันท้ายนรสิงห์เขาทำยังไงครับ ท่านนายกฯนี่รู้ดี ท่านเป็นทหารต้องรู้จักพันท้ายนรสิงห์ เขาพลีชีพเพื่อรักษา เทิดทูนสถาบันหน่ะ ทำไมบอกว่าคนดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยาเนี่ยตายแทนราชบัลลังค์ได้ ผมชื่นชมคนหนึ่งผมฝากด้วย นอกจากพันท้ายนรสิงห์แล้วเนี่ย ผมชื่นชมคนนึง นักต่อสู้ หลายคนอาจจะลืมแล้ว พ.ต.ต. อนันต์ เสนาขันธ์ เป็นนักต่อสู้ที่เด็ดเดี่ยวมากในยุคที่ผมเป็นเด็กวัยรุ่น เขาทำยังไงรู้ไหมครับ พ.ต.ต.อนันต์เขาบอกว่า ถ้าผมตายด้วยฝีมือเผด็จการ ช่วยเอากระดูกของผมป่นดีๆ แล้วเอาไปฝังใต้ต้นลานโพธิ์ธรรมศาสตร์ ทำไมเขาเจาะจงต้องเอากระดูกเขาไปที่ลานโพธิ์ เพราะเขาศรัทธาในธรรมศาสตร์มาก ว่าธรรมศาสตร์นี่คือแหล่งผลิตคนออกมาเป็นนักประชาธิปไตย สัญลักษณ์ของธรรมศาสตร์คือลานโพธิ์ เขายอมเอาชีวิตของเขาไปบำรุงลานโพธิ์ให้สูงส่ง

ถ้าท่านนายกฯ จะสละตัวเอง แค่ลาออกเพื่อไปบำรุงต้นศรีมหาโพธิ์ เพื่อบำรุงพระบรมโพธิสมภารให้สูงส่ง ให้พวกเราได้ยึดเหนี่ยว เป็นที่ปกปักษ์พวกเราต่อไปเนี่ย ทำไมท่านจะทำไม่ได้ครับ ลาออกแล้วก็จะเป็นการแสดงสัญลักษณ์ว่าศาลพระภูมินี้เฮี้ยนนะ ศักดิ์สิทธิ์นะ ฉันเองยังต้องลาออกนะ แล้วจะกลับมาใหม่มันจะยากอะไร มือของท่านก็เต็มอยู่แล้ว ส.ว. 250 คน ท่านจะทำอะไรเขาก็ยกให้ท่านหมดอยู่แล้ว ทำอย่างนั้นเพื่อยกยอ แล้วกลับมาอีกรอบ พวกผมก็ยินดีเป็นฝ่ายค้านต่อ แต่ถ้าท่านไม่ทำอย่างนี้ ต่อไปนี้คนไทยจะคิดอย่างไร

เอาละ ไม่มีใครทำอะไรท่านได้ ท่านว่าท่านก็จะอยู่ไปอย่างนี้ ใช่ครับ ศาลรัฐธรรมนูญสั่งมาอย่างนั้น พวกผมก็จำใจ ไม่พึ่งแล้ว ไม่เป็นไร ท่านวันนอร์จะไปยื่น ก็เป็นความหวังเล็กๆ น้อยๆ ของพวกผม ก็จะหวังกันไป แต่สิ่งหนึ่งซึ่งพวกเราคาดหวังและท่านต้องตระหนัก เลือกตั้งคราวหน้า เก่งอย่างไรผมเชื่อว่าท่านอยู่ไม่เกิน 4 ปีอ่ะ ถ้ามีเลือกตั้งเมื่อไหร่ พวกผมไม่รอศาลรัฐธรรมนูญหรอกครับ ไม่รอองค์กรอื่นใดหรอกครับ ประชาชน นั่นคือที่หวังของพวกเรา พฤติกรรมของท่านวันนี้ ความอหังการ์ของท่านนายกฯ เจอกันตอนเลือกตั้ง วันนี้พวกเราได้ทำหน้าที่สมบูรณ์แม้จะถูกลดทอนเป็นลำดับๆ จากหกทุ่มมาเหลือหกโมงเย็น ผมกราบขอโทษที่ต้องเกินเวลาไป 12 นาที หวังว่าจะได้รับความเข้าใจกันในการปฏิบัติหน้าที่ของพวกเราฝ่ายค้านวันนี้ ขอบคุณครับ

One thought on “สุทิน คลังแสง: กรณีประยุทธ์ถวายสัตย์ไม่ครบ

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s