เป็นคุณเองที่รู้ดี: สี่บทกวีจาก “ลุกไหม้สิ! ซิการ์”

ชัชชล อัจฯ เขียน
Summer Panadd วาด

[To read “Reader, You Know Best: Four Poems” with an introduction in English, click here.]

คัดจาก ลุกไหม้สิ! ซิการ์ (สำนักพิมพ์ P.S., 2565)


2553

บทกวีของผมอยู่ในกูเกิล

บทกวีของผมอยู่ในกูเกิล
ถ้าอยากพูดคุยกับมัน
ต้องออกแรงสักหน่อย
ใช่ ทำอย่างที่เคยทำ
พิมพ์ลงไปในช่องค้นหา

นั่นล่ะ!
เราต่างก็รู้
ทำไมมันถึงไม่ได้ตีพิมพ์บนหน้ากระดาษ
ไม่อยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์
หรือนิตยสารวิเคราะห์การเมืองชั้นนำ
ไม่อยู่ในหน้านิตยสารวรรณกรรมชั้นหนึ่ง
ไม่ถูกพูดถึงในรายการเล่าข่าวยอดนิยม

แน่ล่ะ!
มันหยาบคายเกินไป
ก้าวร้าวเกินไป
เย่อหยิ่งและไม่มีสัมมาคารวะ
บ่อนทำลายศีลธรรมอันดี
ไม่หยุดอยู่แค่ภาษาชั้นต่ำ
แต่เสือกเปิดเผยตรรกะแข็งขืน
สาธยายความเปราะบางของเขาคนนั้น
ภาษาราชการเรียกว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง

ไม่ ไม่ต้องเป็นห่วง
ผมรู้วิธีเอาตัวรอด
เราต่างก็ต้องหาทางหนีทีไล่
อย่างที่รู้กัน
คนมากมายต้องมาตายอยู่ข้างถนน
ไม่ก็ถูกขังอย่างไร้ศักดิ์ศรี
นานเกินไป
ความกลัวจ้องจะกัดกินทุกประสาทสัมผัส
ถ้าไม่ตะโกนตอกกลับไปบ้าง
ผมต้องประสาทแดกแน่
ชีวิตบัดซบพวกนี้
จับต้นชนปลายไม่ถูกว่าเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่
อย่าเพิ่งสิ้นหวัง
ผมได้แต่บอกตัวเอง
และลงมือขีดเขียนบางสิ่งบางอย่าง
เพื่อค้นหาพวกคุณ
เพื่อยืนยันว่าเรายังอยู่ในโลกใบเดียวกัน
และยังต้องการกันและกัน

ใช่…
ทำอย่างที่เคยทำ
บทกวีของผมอยู่ในกูเกิล


นักอ่าน

เป็นคุณเองที่รู้ดี
เพื่อนนักอ่านที่รัก
คุณรู้จักโลกหนังสือดีกว่าผม
ไหนจะบรรดานักเขียน กวี
ถ้อยคำและตัวละครของพวกเขา
คุณบอกผมว่าทุกซอกซอยมีความลับ
ในฉากจบของวันพรุ่งนี้
เป็นคุณเองที่มองเห็นมันอย่างชัดเจน
จนบทกวีของผมไม่มีความจำเป็น
เพื่อนนักอ่านที่รัก
คุณบอกผมว่าเรามาถึงก้าวสุดท้าย
ที่คุณคือผม
และผมคือคุณ
ขณะที่ผมเขียนถึงคุณ
คุณก็กำลังกระซิบบางอย่างข้างหูผม
คุณบอกว่าบทกวีชิ้นนี้ต้องเขียนออกมา
เพื่อแสดงความเชื่อมั่นในตัวคุณ
คุณรู้ว่าคุณควรอ่านอะไร
ควรคิดอะไร
ควรมีชีวิตอย่างไร
คุณพูดถึงความใฝ่ฝันและแรงทะยานอยาก
ที่ผมไม่มีวันจินตนาการถึง
คุณบอกให้ผมบันทึกถ้อยคำของคุณลงไป
คุณบอกว่ายินดีเป็นคนบาป
เพื่อสบถคำว่า เหี้ย ให้ประเทศนี้
คุณบอกว่ายินดีเป็นนักโทษ
เพื่อสบถคำว่า ระยำ ให้เจ้าของประเทศนี้
คุณบอกว่ายินดีเป็นผู้เขียนบทกวีชิ้นนี้
เพื่อบอกว่าความยุติธรรมอยู่ในคุก
เช่นเดียวกับพวกเราทุกคน
นี่คือสิ่งที่คุณบอกให้ผมเขียนลงไป
และย้ำว่าอย่าบิดพลิ้ว
เขียนให้ตรงไปตรงมาที่สุด
แม้ภาษาจะเลื่อนไหล
แต่นักอ่านของผมจะเข้าใจความหมาย
นักอ่านของคุณจะเข้าใจความหมาย
คำว่า เหี้ย ก็คือ เหี้ย
ไม่มากไปหรือน้อยไป
นักอ่านของเรารู้ดีว่ามันหมายถึงอะไร


สรรพนาม

นี่จะเป็นบทกวีอีกชิ้น
ที่ต้องการตามหาตัวละคร
ไม่สิ ไม่ใช่ตัวละคร
นี่ไม่ใช่การแสดงบทบาทสมมติบนหน้ากระดาษ
ทุกชีวิตมีเนื้อมีหนัง
ทุกท่วงท่าการกระทำล้วนรองรับด้วยความเป็นไปได้
ความเป็นไปได้ที่เป็นจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง
เมื่อทุกตรรกะพลิกพลิ้วและพร้อมจะทำลายขีดจำกัด
โลกแห่งความฝันจะซ้อนทับโลกแห่งความจริง
เรื่องแต่งจะทับซ้อนเรื่องจริง
เช่นเดียวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิต
ทุกชีวิตมีดวงตาที่สามารถหลั่งน้ำตา
มีดวงใจที่สามารถหลั่งเลือด
มีพละกำลังภายในที่จะฉีกกระชากภูเขา
และบดขยี้มันไว้แทบเท้า
โดยเฉพาะความเข้มข้นของศักดิ์ศรี
ที่ไม่อาจถูกดูหมิ่น

เมื่อได้ทบทวนความเข้าใจพื้นฐานแล้ว
แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่ผมไม่เคยก้าวข้ามไปได้
ไม่ว่าจะทำงานหนักขนาดไหน
สรรพนามที่ใช้ในบทกวี
ไม่เคยสร้างความรู้จักมักคุ้นระหว่างผู้เขียนกับตัวละคร
ไม่ว่าจะแทนตัวเองเป็นพวกเขา
หรือแทนพวกเขาเป็นตัวผม
นั่นไม่เคยทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวกันได้เลย
เสียงกรีดร้องในบทกวีของผมไม่ใช่เสียงที่เกิดขึ้น
เมื่อปากกระบอกปืนเล็งไปที่หัวของพวกเขา
ความเจ็บปวด ความกล้าหาญ
และความสูญเสียที่ผมไม่มีวันรับรู้และเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
แต่บางทีมันอาจถูกต้องแล้ว
เมื่อแท้จริงแล้วผมไม่ใช่ ไม่เคยใช่ และไม่มีวันใช่
ผมก็คือผม
เขาก็คือเขา
อาจมีบางด้านที่สามารถใช้คำว่าเรา
แต่สรรพนามทั้งหลายทั้งปวง
ก็เพียงการคบค้าสมาคมชั่วครั้งชั่วคราว

คุณ ผม เรา เขา หรือเธอ
พบกัน ทำความรู้จัก และจากลา
อาจเพียงวินาทีต่อวินาที
บทกวีต่อบทกวี
หรือแม้กระทั่งชั่วชีวิตหนึ่งต่อชั่วชีวิตหนึ่ง
แต่สุดท้ายก็ต้องกลายเป็นคนแปลกหน้า
เป็นกลีบที่ค่อยค่อยร่วงหล่นจากดอกกุหลาบ
ทีละกลีบ ทีละกลีบ
เป็นตัวละครที่ผ่านมาถักทอบทสนทนา
ทีละตัว ทีละตัว
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น
ทุกท่วงท่าการกระทำล้วนรองรับด้วยความเป็นไปได้
ความเป็นไปได้ที่เป็นจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง


2563

ถาม

ถามจริงๆ คุณรักหรือชักกลัว
ว่าคนรักคุณชักชั่วกว่าทุกสิ่ง
แต่ไม่อาจตัดสัมพันธ์สะบั้นทิ้ง
เพราะความจริงคุณกับเขา – ผนึกเข้าเป็น “เรา” แล้ว?

One thought on “เป็นคุณเองที่รู้ดี: สี่บทกวีจาก “ลุกไหม้สิ! ซิการ์”

Leave a comment